เมนู

พระนาคเสนจึงมีเถรวาจาว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภาร เปรียบ
ปานประดุจบุคคลตบมือ จักขุดุจมือขวา รูปมีครุนาดุจมือซ้ายอันกระทบกับ ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ปิ่นประชากรจึงตรัสว่า นิมนต์พระผู้เป็นเจ้ากระทำอุปมาให้ภิยโย-
ภาวะยิ่ง ๆ ขึ้นภาวะ
พระนาคเสนจึงมีเถรวาจาอุปมาอีกเล่าว่า มหาราช ขอถวายพระพร เปรียบดุจปี่สองเลา
คนเป่าขึ้นพร้อมกันเสียงสนั่นขานกัน ปี่เลาหนึ่งนั้นได้แก่จักขุ ปี่เลาหนึ่งนั้นได้แก่รูป มีลักษณะ
กระทบกันเข้าเป็นผัสสะ บพิตรพึงสันนิษฐานเข้าพระทัยว่า ผัสสะนี้มีลักษณะให้จักขุกับรูป
กระทบกัน ในกาลบัดนี้
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ทรงฟังก็มีพระทัยปรีดาตรัสว่า กลฺโลสิ สธุสะพระผู้เป็นเจ้า
วิสัชนานี้สมควรแล้ว
ผัสสลักขณปัญหา คำรบ 8 จบเท่านี้

เวทนาลักขณปัญหา ที่ 9


ราชา

สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการตรัสถามว่า ภนฺเต นาคเสน
ข้าแต่พระนาคเสนผู้ประเสริฐ เวทนาเมื่อบังเกิดมีลักษณะประการใด
พระนาคเสนจึงวิสัชนาแก้ไขว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภารผู้
ประเสริฐ เวทนาเมื่อบังเกิดนั้น มีลักษณะเสวยสุขทุกข์อุเบกขาทั้ง 3 ประการ พระราชสมภาร
พึงเข้าพระทัยเถิด
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์เลิศกษัตริย์มีพระราชโองการตรัสว่า โยมอาราธนานิมนต์พระ
ผู้เป็นเจ้ากระทำอุปมาไปให้แจ่งก่อน
พระนาคเสนจึงอุปมาว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภาร เปรียบปาน
ประดุจหนึ่งบุรุษข้าราชการผู้หนึ่งนั้นหมั่นมักภักดีอุตส่าห์เฝ้าเช้าเย็นมิได้ขาดหน้าทุกเวลาไป สมเด็จ
บรมกษัตริย์มีน้ำพระทัยรักใคร่โปรดปาน ทรงพระกรุณาพระราชทานเงินทองเสื้อผ้าข้าไท
อิสริยยศ เครื่องกามคุณให้แก่บุรุษนั้น บุรุษนั้นครั้นได้ความสุขแล้วก็ผ่องแผ้วคิดในใจว่า

เวทยามิ อาตมาได้เสวยสุขทั้งนี้ เพราะอาตมาภักดีต่อบรมกษัตราธิราชโปรดปรานประทานให้
แก่อาตมา บุรุษผู้นั้นก็สุขเกษมเปรมใจ อปโร นโย ยังอีกนัยหนึ่ง ได้แก่บุรุษกระทำกุศลอันยิ่ง
ครั้นทำลายสหชาตนามกายตายไป ก็ได้ไปอุบัติบังเกิดในสวรรค์ชั้นเทวโลก เสวยทิพยสมบัติ
เกษมศรี สมงฺคีภูโต พร้อมเพรียงอิ่มเอิบด้วยเครื่องบำเรอกามคุณ เป็นที่รักแห่งเทพนิกรสุรางค์
นางฟ้า เทพบุตรผู้นั้นก็นึกในใจว่า ตัวอาตมานี้ได้เสวยทิพยสมบัติทั้งนี้ เหตุอาตมาได้กฤดา
การกุศลสิ่งนั้น ๆ ไว้แต่ก่อนมา จึงได้เสวยสุขเวทนานี้ ยถา อันนี้มีครุวนาฉันใด เวทนามี
ลักษณะเสวยอารมณ์ เหมือนบุรุษที่ได้สร้างกุศลฉะนั้น บพิตรพระราชสมภารพึงเข้าพระทัย
ด้วยประการฉะนี้
พระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดีได้ทรงฟัง ก็ทีพระทัยโสมนัสตรัสว่า กลฺโลสิ สธุสะพระ
ผู้เป็นเจ้าวิสัชนาควรแล้ว
เวทนาลักขณปัญหา คำรบ 9 จบเท่านี้

สัญญาลักขณปัญหา ที่ 10


ราชา

สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการตรัสว่า ภนฺเต นาคเสน
ข้าแต่พระนาคเสนผู้ประเสริฐด้วยปัญญาปรีชา อันว่าสัญญานั้นมีลักษณะประการใด
พระนาคเสนจึงวิสัชนาแก้ไขว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภารผู้
ประเสริฐ สัญญาเมื่อบังเกิดมีลักษณะรู้ว่าแดง ว่าขาวเป็นต้น ว่าสีหม่นสีเหลืองประการใดก็ดี
สัญญานี้มีลักษณะรู้จักดุจพรรณนามาฉะนี้
พระเจ้ากรุงมิลินท์เลิศกษัตริย์ มีพระราชโองการตรัสว่า นิมนต์พระผู้เป็นเจ้าอุปมาไป
ให้แจ้งก่อน
พระนาคเสนจึงอุปมาว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภารผู้ประเสริฐ
สัญญานี้เมื่อจะบังเกิดนั้นมีลักษณะดุจภัณฑาคาริกบุรุษชาวคลัง คณฺฑาคารํ ปวิสิตฺวา ชาวคลัง
นั้นเข้าไปในคลังแล้ว ก็เห็นสิ่งของในคลังอันแดงเหลือขาวหงสบาท ก็รู้จักว่าสิ่งนั้น ๆ ฉันใดก็ดี
สัญญานี้ไซร้ก็มีลักษณะรู้จักว่าดำแดงขวาเหลืองเป็นอาทิเหมือนชาวคลังฉะนั้น ขอถวายพระพร